ปลาไทย ก็มีโอเมก้า-3 เช่นกัน


จากการศึกษาในปัจจุบัน พบแล้วว่า กรดไขมันโอเมก้า-3 นั้นมีประโยชน์มากมาย อาทิเช่น

  • ช่วยลดการเสียงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยลดการจับตัวกันของเกล็ดเลือด ทำให้การไหลเวียนของโลหิตทำได้ดีขึ้น
  • ลดไตรกลีเซอร์ไลด์ในหลอดเลือด 25-30%
  • มีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาสมอง โดยเฉพาะในส่วนของการจำและการเรียนรู้
  • ฯลฯ

การจะเพิ่มโอเมก้า-3 ในร่างกายนั้น สามาถทำได้จากการรับประทานอาหาร ซึ่่งหลายคนอาจเข้าใจผิดว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 นั้น พบได้แต่ในปลาทะเลน้ำลึกเท่านั้น แต่ความจริงแล้วในปลาไทยเอง ก็มีกรดไขมันโอเมก้า-3 เช่นกัน และถ้าเทียบกับปลาแซลม่อนแล้ว ปลาไทยบางชนิดก็ไม่ปริมาณโอเมก้า-3 ไม่แพ้กันเลย ดังข้อมูลต่อไปนี้:

ปลาไทย ก็มีโอเมก้า-3 เช่นกัน
 
  • ปลาแซลม่อน มีโอเมก้า-3 = 1,000-1,700 มิลลิกรัม/ 100 กรัม
  • ปลาสวาย มีโอเมก้า-3 = 2,111 มิลลิกรัม / 100 กรัม
  • ปลาทู มีโอเมก้า-3 = 1,636 มิลลิกรัม / 100 กรัม
  • ปลาช่อน มีโอเมก้า-3 = 1,052 มิลลิกรัม / 100 กรัม
  • ปลาอินทรี มีโอเมก้า-3 = 882 มิลลิกรัม / 100 กรัม
  • ปลาน้ำดอกไม้ มีโอเมก้า-3 = 765 มิลลิกรัม / 100 กรัม
  • ปลาเนื้ออ่อน มีโอเมก้า-3 = 622 มิลลิกรัม / 100 กรัม
  • ปลากระพงแดง มีโอเมก้า-3 = 459 มิลลิกรัม / 100 กรัม
  • ปลากระพงขาว มีโอเมก้า-3 = 360 มิลลิกรัม / 100 กรัม
  • ปลาดุกอุย มีโอเมก้า-3 = 258 มิลลิกรัม / 100 กรัม


ดังนั้น ควรกินปลาอย่างน้อย 2-3 มื้อต่อสัปดาห์ จะทำให้ได้รับกรดไขมันโอเมก้า-3 ในระดับที่เพียงพอ


ที่มาข้อมูล: คลิปจากยูทูป: ปลาไทยก็มีโอเมก้า 3 สูง ไม่แพ้ปลาต่างประเทศ


0
0
0
s2smodern

ติดตามเราบนช่องทางอื่น:

ติดตามเรา ทาง FACEBOOK

ติดตามเรา ทาง LINE @

ซีรี่ย์อีสานสาวแพนนิทานก้อม

จำหน่ายฉนวนกันเสียง Rockwool และ Zoundblock

รับติดตั้ง ผนังกันเสียง คอนโดฯ